เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ GED เพื่อการใช้เข้ามหาลัยต่างประเทศ
รู้หรือไม่ว่า การเรียนปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษใช้เวลาเรียนเพียงแค่ 3 ปี (น้อยกว่าไทย 1 ปี) สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจอยากใช้วุฒิ GED ในการเข้ามหาลัยต่างประเทศ เพื่อจบปริญญาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ตอนนี้ถือเป็นโอกาสดีอย่างยิ่ง เพราะ Finn มีหลักสูตรเส้นทางลัดสู่การจบปริญญาตรี 3 ปี จากประเทศอังกฤษ ซึ่งสามารถใช้วุฒิ GED ในการสมัครเรียนบริหารอินเตอร์ได้เลย โดยเป็นหลักสูตรเส้นทางสู่การจบปริญญาตรี 3 ปี ในรูปแบบ Top-up Degree ซึ่งถูกควบคุมและผ่านการรับรองจากบอร์ดการศึกษาภายใต้รัฐบาลอังกฤษ
หลักสูตรของ Finn จะเริ่มจากการเรียนหลักสูตร Diploma 2 ปีในไทย ซึ่งในช่วง 2 ปีที่เรียนในไทย น้อง ๆ จะได้เรียนหลักสูตรของประเทศอังกฤษ เอกสารประกอบการเรียนการสอน ข้อสอบรวมทั้งการให้คะแนนและออกเกรด ล้วนเป็นมาตรฐานจากบอร์ดการศึกษาประเทศอังกฤษ เพื่อคุณภาพการศึกษาในระดับโลก
การเรียนในปีสุดท้าย (Top-up Degree) จะเรียน ณ มหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศที่นักเรียนเป็นผู้เลือก เมื่อเรียนจบน้อง ๆ จะได้รับวุฒิปริญญาตรีและใบปริญญาโดยตรงจากมหาวิทยาลัยที่เลือกเรียนในปีสุดท้าย มหาวิทยาลัยที่น้อง ๆ สามารถเลือกเรียนในปีสุดท้าย มีทั้งในประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย และสวิตเซอร์แลนด์
น้อง ๆ สามารถเริ่มต้นด้วยการยื่นสมัครสอบ GED เพื่อเปิดประตูสู่การเรียนต่อต่างประเทศ ในคณะบริหารธุรกิจและคณะการจัดการการท่องเที่ยวและโรงแรม ที่น้อง ๆ สามารถเรียนและนำไปต่อยอดเพื่อทำงานได้ในหลากหลายสาขาอาชีพได้ง่าย ๆ พิเศษ !! สำหรับน้อง ๆ ที่จบปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษ จะสามารถขอวีซ่าเพื่ออยู่เที่ยวอยู่ทำงานได้อีก 2 ปี หรือถ้าจะเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษเลยก็ใช้เวลาอีกแค่ 1 ปี เท่านั้น
แล้ว GED คืออะไร
GED ย่อมาจาก General Education Development เป็นการสอบเทียบวุฒิ ม.6 ตามหลักสูตรมาตรฐานของประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้ยื่นเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ข้อดีของการสอบเทียบ GED เปรียบเทียบกับการสอบเทียบอื่น คือ GED มีจำนวนวิชาที่ใช้สอบน้อยกว่า เพียง 4 วิชา เท่านั้น อีกทั้งยังมีการเปิดให้สอบตลอด ไม่ต้องรอรอบสอบนาน หากเตรียมตัวดีก็สามารถสอบเทียบวุฒิ ม.6 ด้วย หลักสูตร GED ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน เมื่อสอบผ่านทุกวิชาแล้วจะได้วุฒิ โดยผลสอบจะไม่มีวันหมดอายุ สามารถใช้ GED เพื่อยื่นมหาลัยอังกฤษ หรือประเทศอื่น ๆ ได้ตลอด ด้วยเหตุนี้ การใช้ผลสอบเทียบ GED เรียนต่อมหาลัยอังกฤษจึงเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
เทียบวุฒิ GED ใช้ยื่นเพื่อเรียนต่อที่ไหนได้บ้าง
วุฒิสอบเทียบ GED ใช้ยื่นเพื่อสอบเข้าเรียนต่อในได้ทั้งภาคปกติ ภาคอินเตอร์ของมหาวิทยาลัย และมหาลัยต่างประเทศ ที่รับ GED เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และประเทศอื่น ๆ
โดยเหตุผลที่มหาวิทยาลัยอังกฤษรับวุฒิ GED รวมถึงประเทศชั้นนำอื่น ๆ ก็ยอมรับในวุฒินี้ด้วยเช่นกัน ก็เป็นเพราะว่า มาตรฐานการสอบโดยประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก มีการจัดสอบมานาน เนื้อหาการสอบครอบคลุมและใช้ข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้น การสอบผ่านเกณฑ์ GED นอกจากจะใช้เข้าอินเตอร์ได้แล้ว ยังแสดงถึงความรู้ทางวิชาการและภาษาที่ดีพอที่ทำให้เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้อย่างไม่มีปัญหา
นอกจากมหาวิทยาลัยที่รับ GED แล้ว วุฒิ GED ยังสามารถใช้เพื่อยื่นสมัครคอร์สเรียนที่มีการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ โดยไม่ต้องใช้ผลสอบภาษาอังกฤษอื่น เช่น TOEFL, IELTS, Etc.,. อย่างหลักสูตรเส้นทางสู่ปริญญาตรี 3 ปี จากรัฐบาลอังกฤษ (Top-up Degree) ที่ Finn School of Business and Tourism
จบปริญญาตรีจากอังกฤษได้ง่ายขึ้น เริ่มต้นกับสถาบัน Finn ด้วยระบบ Top-Up Degree
เมื่อได้รู้แล้วว่า GED สำคัญกับการเข้ามหาลัยต่างประเทศอย่างไร ดังนั้น น้อง ๆ คนไหนที่ได้วุฒิ GED มาแล้วอยากเริ่มต้นเส้นทางเรียนต่อระดับปริญญาตรีในต่างประเทศ แนะนำให้เข้ามาที่สถาบัน Finn เส้นทางสู่ปริญญาตรี 3 ปีอังกฤษ (2+1) : เรียนหลักสูตร Diploma 2 ปีในไทย และอีก 1 ปีสุดท้าย (Top-Up Degree) ณ มหาวิทยาลัยชั้นนำที่น้อง ๆ เลือกได้ ทั้งในประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย หรือ สวิตเซอร์แลนด์ พร้อมรับวุฒิปริญญาตรีโดยตรงจากมหาวิทยาลัยที่เลือกเมื่อจบการศึกษา สามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่ Finn ได้ทาง 083-057-7956 หรือ 02-619-1249 หรือ add line เข้ามาได้เลย
“จะเรียนแค่มหา’ลัยชื่อดังในไทย…. หรือจะไป มหาวิทยาลัยระดับโลก”
แล้ว GED คืออะไร
GED ย่อมาจาก General Education Development เป็นการสอบเทียบวุฒิ ม.6 ตามหลักสูตรมาตรฐานของประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้ยื่นเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ข้อดีของการสอบเทียบ GED เปรียบเทียบกับการสอบเทียบอื่น คือ GED มีจำนวนวิชาที่ใช้สอบน้อยกว่า เพียง 4 วิชา เท่านั้น อีกทั้งยังมีการเปิดให้สอบตลอด ไม่ต้องรอรอบสอบนาน หากเตรียมตัวดีก็สามารถสอบเทียบวุฒิ ม.6 ด้วย หลักสูตร GED ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน เมื่อสอบผ่านทุกวิชาแล้วจะได้วุฒิ โดยผลสอบจะไม่มีวันหมดอายุ สามารถใช้ GED เพื่อยื่นมหาลัยอังกฤษ หรือประเทศอื่น ๆ ได้ตลอด ด้วยเหตุนี้ การใช้ผลสอบเทียบ GED เรียนต่อมหาลัยอังกฤษจึงเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
เทียบวุฒิ GED ใช้ยื่นเพื่อเรียนต่อ
ที่ไหนได้บ้าง
วุฒิสอบเทียบ GED ใช้ยื่นเพื่อสอบเข้าเรียนต่อในได้ทั้งภาคปกติ ภาคอินเตอร์ของมหาวิทยาลัย และมหาลัยต่างประเทศ ที่รับ GED เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และประเทศอื่น ๆ
โดยเหตุผลที่มหาวิทยาลัยอังกฤษรับวุฒิ GED รวมถึงประเทศชั้นนำอื่น ๆ ก็ยอมรับในวุฒินี้ด้วยเช่นกัน ก็เป็นเพราะว่า มาตรฐานการสอบโดยประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก มีการจัดสอบมานาน เนื้อหาการสอบครอบคลุมและใช้ข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้น การสอบผ่านเกณฑ์ GED นอกจากจะใช้เข้าอินเตอร์ได้แล้ว ยังแสดงถึงความรู้ทางวิชาการและภาษาที่ดีพอที่ทำให้เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้อย่างไม่มีปัญหา
นอกจากมหาวิทยาลัยที่รับ GED แล้ว วุฒิ GED ยังสามารถใช้เพื่อยื่นสมัครคอร์สเรียนที่มีการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ โดยไม่ต้องใช้ผลสอบภาษาอังกฤษอื่น เช่น TOEFL, IELTS, Etc.,. อย่างหลักสูตรเส้นทางสู่ปริญญาตรี 3 ปี จากรัฐบาลอังกฤษ (Top-up Degree) ที่ Finn School of Business and Tourism
จบปริญญาตรีจากอังกฤษได้ง่ายขึ้น
เริ่มต้นกับสถาบัน Finn ด้วยระบบ Top-Up Degree
เมื่อได้รู้แล้วว่า GED สำคัญกับการเข้ามหาลัยต่างประเทศอย่างไร ดังนั้น น้อง ๆ คนไหนที่ได้วุฒิ GED มาแล้วอยากเริ่มต้นเส้นทางเรียนต่อระดับปริญญาตรีในต่างประเทศ แนะนำให้เข้ามาที่สถาบัน Finn เส้นทางสู่ปริญญาตรี 3 ปีอังกฤษ (2+1) : เรียนหลักสูตร Diploma 2 ปีในไทย และอีก 1 ปีสุดท้าย (Top-Up Degree) ณ มหาวิทยาลัยชั้นนำที่น้อง ๆ เลือกได้ ทั้งในประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย หรือ สวิตเซอร์แลนด์ พร้อมรับวุฒิปริญญาตรีโดยตรงจากมหาวิทยาลัยที่เลือกเมื่อจบการศึกษา สามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่ Finn ได้ทาง 083-057-7956 หรือ 02-619-1249 หรือ add line เข้ามาได้เลย
“จะเรียนแค่มหา’ลัยชื่อดังในไทย…. หรือจะไป มหาวิทยาลัยระดับโลก”